คุณภาพเสียง
บทสัมภาษณ์พิเศษ
Close
ตอนที่ 03

ช่องทางการฟังเพลงที่หลากหลายคือความท้าทายใหม่ในตลาดสินค้า

Q: ในยุคที่มีบริการเพลงออนไลน์เกิดขึ้นและอิทธิพลของโซเชียลเน็ตเวิร์คมากขึ้น ส่งมอบสินค้าในด้านธุรกิจดนตรีจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

ทสึชิมะ:

โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าสิ่งที่เรากำลังพูดถึงนั้นหมายความว่าปัจจุบันเรามีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้เราเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้มากกว่าแต่ก่อน พอระบบดิจิตอลเป็นที่นิยมก็จะมีคนที่ต้องการให้ระบบอนาล็อกกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งนั่นก็เป็นแรงผลักดันครั้งใหญ่สำหรับแผ่นเสียง ไม่มีอะไรที่คงอยู่แบบถาวร โดยปกติแล้วเมื่อเวลาผ่านไปก็จะมีการเคลื่อนไหวและเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ เมื่อผู้คนเริ่มได้ช่องทางในการฟังเพลงในแบบของตัวเองแล้ว ผมก็จะเริ่มคิดหาวิธีที่จะจัดส่งเพลงให้กับพวกเขา

โยชินาริ:

ผมว่าเป็นวิธีการเข้าถึงที่ดีจริงๆ นะครับ คุณภาพเสียงที่ดีมักจะเป็นเป้าหมายอยู่เสมอ แต่ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถสร้างประสบการณ์การฟังดนตรีที่ดีที่สุดได้ คุณจะต้องเชื่อมั่นว่ามีผู้คนที่อยู่ข้างนอกนั้น อยู่ตรงนี้ และอยู่อีกฟากของโลกที่เข้าใจว่าคุณกำลังทำเพื่ออะไรอยู่

ทสึชิมะ:

การมีมาตรฐานเป็นของตัวเองเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่คุณควรเตรียมพร้อมที่จะลองสิ่งอื่นๆ ด้วยเสมอ ผมไม่ใช่คนที่ชอบใช้อุปกรณ์เพียงตัวเดียวในการฟังเพลงหรือจะฟังในแบบอนาล็อกอย่างเดียวเท่านั้น

Q: การเข้าถึงแบบไหนที่เหมาะกับตลาดที่มีคู่แข่งมากมาย ?

ทสึชิมะ:

ลองนึกถึงศิลปินที่แสดงที่โตเกียวโดมดูสิครับ ส่วนใหญ่จะเป็นศิลปินวงร็อค นั่นหมายความว่าวงร็อคคือตลาดกลุ่มใหญ่ในตอนนี้ เมื่อคุณแยกออกมาเป็นกลุ่มๆ แบบนั้นแล้ว คุณจะเริ่มเห็นขนาดของตลาดของคุณ จากนั้นคุณจะได้ความคิดมาอย่างง่ายดายว่าเพลงของคุณจะขายได้ดีขนาดไหนและขายได้มากน้อยเท่าไร

Q: แสดงว่าคุณพัฒนาธุรกิจของคุณโดยอิงจากมุมมองที่ชัดเจนทางการตลาดใช่หรือเปล่าครับ

ทสึชิมะ:

สำหรับค่ายเพลงใหญ่ๆ พวกเขาจะบอกว่า "เรามาดันเพลงแนวนี้กันเถอะ" หรือ "เซ็นสัญญาศิลปินคนนี้กันเถอะ" และวางแผนในทิศทางนั้นๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจพวกเขา แต่สำหรับค่ายเพลงเล็กๆ อย่างเรา ขั้นตอนจะเริ่มเมื่อเราค้นพบเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเราคิดว่ามันหายไปจากตลาดปัจจุบัน การเข้าถึงของเราก็คือการเข้าถึงคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และเสนอโอกาสให้พวกเขาได้ค้นพบเพลงใหม่ๆ ที่อาจฟังดูแปลกแต่มีความเร้าใจแน่นอน และการทำแบบนี้ก็เพื่อขยายฐานลูกค้าของเรานั่นเอง

ทสึชิมะ:

แทนที่เราจะทำเพลงตามที่ลูกค้าต้องการเท่านั้น แต่นี่คือการทำเพลงตามที่เราต้องการและคอยช่วยเหลือลูกค้าและกระแสปัจจุบันให้ตามเราให้ทัน การขายในแบบทั่วๆไป ถ้าไม่ขายทางตรงซึ่งเหมือนกับการขว้างลูกเร็ว ก็จะเป็นการขายแบบทางอ้อมซึ่งเหมือนกับการขว้างลูกโค้ง ผมคาดว่าลูกค้าอาจจะมองการเข้าถึงของเราเหมือนกับการขว้างลูกเบสบอลแบบ change up คือไม่ค่อยเป็นไปตามที่คาด

Q: งั้นคุณก็หมายความว่านั่นไม่ใช่ความตั้งใจจริงๆ ของคุณเหรอ ?

ทสึชิมะ:

คือเรากำลังขายกันแบบโดยตรงแต่อาจไม่ใช่วิธีที่คนส่วนใหญ่เขาใช้กัน แน่นอนว่าเมื่อเพลงที่คุณต้องการขายนั้นเกิดเป็นตลาดใหญ่ขึ้นมา ถือเป็นเรื่องที่ดีแต่ในบางครั้งจะใช้ไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไรและเราก็ยอมรับได้ สำหรับบริษัทผมนั้น เรารู้สึกว่านี่คือภารกิจของเราที่จะดำเนินการขยายตลาดเพลงอย่างต่อเนื่อง ที่ยังมีช่องโหว่และเพิ่มทางเลือกเพลงให้กับตลาดเพลงในญี่ปุ่นมากขึ้น

Q: ผมเดาว่า การตั้งมาตรฐานสูงเป็นสิ่งที่สำคัญแต่การเอื้อมถึงมาตรฐานเหล่านั้นถือเป็นอีกเรื่องโดยสิ้นเชิง

โยชินาริ:

คุณภาพเสียงไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถมองเห็นหรือวัดกันได้ง่ายๆ สิ่งนี้กลายมาเป็นคำถามว่าจะคุ้มกับงบประมาณที่เสียไปหรือไม่ กับทิศทางแบบนั้น กว่าจะมาถึงจุดนี้ เราต้องทนสู้อยู่กับคำถามนั้น และแล้วก็ประสบความสำเร็จ เครื่อง AV Receiver ตัวใหม่เป็นผลงานชั้นเลิศของอุปกรณ์เสียงด้วยคุณภาพเสียงอันน่าประทับใจ เรารู้ว่าเมื่อผู้คนลองใช้แล้วก็จะเหมือนกับกำลังมาสำรวจผลงานอัลบั้มอันยอดเยี่ยมอยู่นั่นเอง

Q: สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้คนฟังเข้าใจในความหมายที่จะสื่อ ?

ทสึชิมะ:

คุณจะต้องส่งข้อความนั้นออกไปให้ได้ นั่นเป็นขั้นตอนแรกและเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ทุกคนก็เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นนักแต่งเพลงและนักพัฒนาระบบเสียงสเตอริโอของรถก็เช่นกัน เราต้องการมากกว่าสิ่งอื่นใดสำหรับลูกค้าเพื่อที่จะเข้าใจความหมายที่เราต้องการจะสื่อ

Q: วิธีที่จะเพลิดเพลินกับเสียงเพลง ยังคงมีวิวัฒนาการและขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง แต่ในฐานะที่เป็นช่องทางในการถ่ายทอดเสียงเพลง มีตลาดในส่วนไหนบ้าง ที่คุณต้องการที่จะเข้าถึง ?

ทสึชิมะ:

ทุกคนสามารถสนุกกับเพลงได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเชื้อชาติ เพศ หรืออายุ ตัวอย่างเช่น ถ้าเด็กสามขวบบอกผมว่าเขาชอบเพลงของเราหรือผู้ใหญ่ที่อาวุโสกว่ามาบอกว่าเขาฟังเพลงของเราอยู่ นั่นทำให้ผมมีความสุขมากๆ เราไม่มีเหตุผลที่จะจำกัดกลุ่มผู้ฟังของเรา

โยชินาริ:

เวลาที่ศิลปินนำเพลงมารวมกันเป็นอัลบั้ม จะมีหลายๆ ท่อนในเพลงซึ่งพวกเขาต้องการให้ผู้ฟังร้องไห้หรือรู้สึกตื่นเต้น มีหลายๆ คนได้สร้างผลงานอัลบั้มออกมาอย่างเต็มที่และเรามีหน้าที่ในการรักษาผลงานอันทุ่มเทของพวกเขาเอาไว้ให้ดี เมื่อเพลงของพวกเขาได้ถูกเล่นผ่านสินค้าของเรา สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ก็คือคุณภาพเสียงที่ถูกบั่นทอนลงจนจังหวะการเร้าอารมณ์เหล่านั้นมันหายไป

Q: นั่นคือเรื่องที่เกี่ยวกับการรักษาเสียงต้นฉบับใช่หรือเปล่า ?

โยชินาริ:

ถูกต้องครับ นั่นเป็นภารกิจของเราในการสร้างสินค้าที่มอบประสบการณ์การฟังเพลงที่ราวกับเพิ่งบันทึกเสียงจากสตูดิโอแต่เป็นบนรถของคุณ

ติดตามต่อในตอนที่4